วัยเด็กเป็นวัยที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ความฝันหลากหลายถาโถมเข้ามาไม่ได้ขาด เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่เราสามารถคิดฝันสิ่งต่างๆได้เป็นร้อยๆอย่างในแต่ละวัน แต่ความคิดเหล่านั้นผ่านมาแล้วก็ลอยหายไป จนวันหนึ่งเมื่อเราเติบโตขึ้น ความรู้ที่ได้รับมามากขึ้นทุกวันเริ่มสร้างกำแพงขึ้นมาภายในจิตใจ กำแพงที่คอยขวางกันจินตนาการเหล่านั้นด้วยคำว่าเป็นไปไม่ได้ เป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมการรู้มากขึ้นถึงได้จำกัดเราไว้แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง หรือว่าเป็นที่เราเองกันแน่ที่เชื่ออย่างสนิทใจว่าสิ่งที่ได้ยินมาคือความจริงแน่นอน ถ้าหากมีสิ่งอื่นนอกเหนือจากนี้สิ่งอื่นเหล่านั้นก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ใช่อย่างนั้นจริงๆหรือ หากเราทุกคนคิดอย่างนั้นแล้วจะเกิดสิ่งใดขึ้นมาใหม่ละ นี่เป็นคำถามที่ผมได้แต่คิดอยู่เสมอมา
ในโลกวัยเด็กของผมนั้นช่างแตกต่างไปจากของเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกัน เพื่อนๆส่วนใหญ่ในรุ่นเดียวกับผมมีชีวิตอยู่ด้วยเกม การ์ตูน หรือเรียนพิเศษตั้งแต่อนุบาล สิ่งเหล่านี้พ่อแม่ล้วนสรรหามาเพื่อให้ลูกๆเชื่อฟัง แล้วสำหรับผมหละ ผมจำได้ว่าตั่งแต่สมัยเป็นเด็กสิ่งที่พอแม่พร่ำสอนเสมอมาคือ การช่วยเหลือตนเอง เริ่มตั้งแต่ลุกมานึ่งข้าวตอนตีห้าตั้งแต่เรียน ป.2 ล้างจาน ทำกับข้าว ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็ต้องออกไปสวนตั้งแต่เช้ามืด สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมรู้จักกับคำว่าเวลา เวลาที่มากกว่าคนอื่น แทนที่จะตื่นสายแต่ผลกลับต้องตื่นมาแต่เช้า เวลาที่เหลือจากงานที่ต้องรับผิดชอบเหล่านั้นหละที่ผมได้เอาไปใช้ทำอย่างอื่น คือการคิด คิดถึงสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว คิดถึงอนาคต นั่งเพ้อฝันกับตัวเอง แล้วเริ่มลงมือทำอะไรซักอย่าง จากเริ่มคิดกลายเป็นเริ่มทำ จากเริ่มทำต้องกลับมาคิดอีกว่าทำอย่างไรถึงจะทำได้ กระบวนการนี้แหละที่หล่อหลอมผมจนมาเป็นผมทุกวันนี้ เป็นผมที่มองเห็นคุณค่าของความฝัน
ความฝัน ผมจัดเป็นสิ่งที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จักมา อาจเป็นเพราะความฝันนี่เองที่ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความหมายของชีวิต ความหมายที่บอกว่าทำไมเราถึงต้องมีชีวิตอยู่ ความฝันเข้ามาได้หลากหลายรูปแบบ อาจจะมาในรูปแบบของความกลัว กลัวแล้วเอาไปฝัน หรืออาจจะเข้ามาในรูปแบบของความรู้สึกดีๆที่มีต่อใครคนหนึ่ง อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก หรือความฝันอาจจะมาจากเรื่องราวรอบๆตัวของเรา จากครอบครัว หรือแม้แต่ละครที่ชอบดูบ่อยๆ ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุไหนทุกความฝันล้วนก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าความหวัง หวังว่าหลายๆอย่างในชีวิตจะดีขึ้น หวังว่าคนที่เรารักจะรักเรา หวังว่าคนที่เคยโกรธจะให้อภัย และอีกต่างๆมากมายสุดแล้วแต่ว่าใครที่เป็นเจ้าของความหวัง
เดี๋ยวมาต่อในตอนหน้า
โดยวีระยุทธ โยตะสิงห์