วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันนี้รู้สึกปวดหัวหนึบๆทั้งวันเลย เป็นติดต่อกันาหลายวันมากแล้ว อาจเป็นเพราะว่าช่วงนี้นอนดึกบ่อยากและมักจะนอนไม่ค่อยหลับด้วย อาจจัฃะเป็นเพราะหลายๆเหตุผล แต่ยังไงก็ช่างมันเหอะ แต่วันนี้รู้สึกอยากกลับบ้านมากๆเลย เป็นไรไม่รู้เมื่อคืนก็ฝันไม่ดีเท่าไหร่ อันที่จริงก็ฝันไม่ดีมาหลายวันเหมือนกัน เห้อ เมื่อไรจะได้กลับบ้านนะ อยากกลับมากๆ ไปพักผ่อนจากเรื่องหนักๆที่ถาโถมเข้ามาในช่วงนี้ ไม่ไช่หนีปัญหานะ แต่ตั้งใจว่า เคลียรือะไรเสร็จก่อนค่อยกลัย อย่างน้อนเรื่องสอบจบเสร็จก่อน นี่อาจเป็นกำลังใจเดียวมั้งมที่ทำให้ผมมีแรงเดินต่อ นีคือสิ่งที่าอมาตั้งสามปีกว่า การเรียนจบ อันที่จริงก็ต้องเรียนโทต่อ แต่อย่างน้อยก็ได้ทำให้คนที่ผมรักภูมิใจ แม่ที่ส่งเงินมาให้ไช้ทุกเดือนก็คงจะดีใจที่เด้กน้อยคนนี้เรียนจบเหมือนที่เคยสัยญากับแม่ไว้ว่าจะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง ถึงเราจะจนแต่อนาคตจะต้องไม่เป็นอย่างที่แล้วมาแน่นอน
วันนี้ยังได้อ่านหนังสือของนิ้วกลมด้วย เรื่องอาจารย์ในร้านคุ๊กกี้ อ่านใกล้จบแล้วหละ อ่านไปก็นึกในใจว่าทำไมเราไม่เคยมองอย่างที่นิ้วกลมมองเลย อาจเป็นเพราะเราำฃไม่เคยตั้งคำถามกับสิ้งที่อยู่รอบๆตัวเราเลยก็ได้ เมื่อเราไม่ตั้งคำถามเราก็จะไม่มีคำตอบ ชีวิตที่ไร้คำถามก็เหมือนกับชีวิตที่ไม่มีความหวัง สุดท้ายก็จะกลายเป็นไม่มีความหมาย อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ อย่างน้อยก้ทำให้ผมได้คิดถึงสิ่งที่มีความหมายในชีวิต เราก็ไม่ได้อ่อนแอหรือสิ้นหวัง เรายังมีทางที่จะต้องเดินต่อไป เช่นเดียวกับผู้คนมากมายที่อยู่บนโลกใบนี้
การคอยเตือนให้ตัวเองรู้เสมอว่าเรายังต้องเดินต่อไปข้างหน้า ผมว่ามันทรมานนะ มันให้ความรู้สึกเหมือนเราต้องคอยโดนกระตุ่นจากตัวเิองอยูเสมอ ผมหวังว่าสักวันหนึ่งผมคงจะเดินขึ้นและวิ่งออกไปเองด้วยแรงผลักดันภายใน แทนที่จะมาจากการถูกกดดันจากภายนอกอย่างที่เป้นเช่นทุกวันนี้ วันนั้นผมคงจะมีความสุขนะ แต่อย่างน้อยวันนี้ผมก็มีความสุข อย่างไรก้ตามผใฃมยังจะต้องวางแผนชีวิตมากขึ้นในช่วงนี้ อย่างที่รู้ ว่าเม่ออย่างหนึ่งมีความมั่นคงสูง การเรียน การงานกำลังไปได้สวย แต่ชีวิตที่นอกเหนือจากนั้นมันเป็นช่วงที่ยากมากๆ ยากที่จะต้องตัดสินใจ ยากที่จะต้องคอยทดการกดดัน และจต้องเผื่อใจกับการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่กำลังจาถึงในเร็วๆนี้ ผมรู้มาเสมอว่ามันจะต้องมาถึง ถึงวันที่ความอดทนทั้งหมดได้สิ้นสุดลง การจากลาที่จะทำให้ชีวิตคนเราต้องเปลี่ยนไป คำตอบสำหรับเรื่องนี้ผมมีรออยู่แล้ว แต่แค่ยังไม่อยากตอบออกไปในตอนนี้ แนวทางก็มีแล้วแต่แค่ไม่กล้าพอที่จะเดินตามนั้นไป ผมสงสารเขาเหลือเกินแต่ก้ไม่อยากรั้งเข้าไว้ หรือให้ความหวังเขาอีกแล้ว เพราะการที่คนเราต้องทนเพราะแค่เห็นใจมันทรมานเหลือเกินทั้งกับผม และกับเขาเมือเขารู้ทุกอย่างผมกลัวว่าเขาจะทำบ้าๆลงไป หากเขาเข้มแข็งมากกว่านี้ผมคงตัดสินใจได้ง่ายขึ้น